45,000 นักลงทุนในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ร่วมชมงาน วิฟ เอเชีย การันตีเวทีเจรจาการค้าระดับโลก ด้วยยอดนักลงทุนต่างชาติสูงขึ้นร้อยละ 7

วิฟ เอเชีย 2019 ที่เพิ่งจบไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จในการจัดงานตามเป้าหมาย โดยมียอดผู้เข้าชมงานมากกว่า 45,000 รายตลอดสามวัน การันตีความสำเร็จของการจัดงานที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งที่ผ่านมา

เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า วิฟ เอเชีย เป็นงานแสดงเทคโนโลยีและสัมมนาสำหรับอุตสาหกรรมปศุสัตว์และสัตว์น้ำ อันดับ 1 ของภูมิภาค ครอบคลุมตั้งแต่ เมล็ดพันธุ์อาหารสัตว์ จนกระทั่งถึง กระบวนการผลิตอาหารเพื่อการบริโภค ในการจัดงานปี 2019 วิฟ เอเชีย ได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งด้วยการมีจุดยืนที่แข็งแกร่งในแง่ของการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศที่หลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมชมงาน โดยมีอัตราเติบโตสูงถึงร้อยละ 7 ของครั้งที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญและเชื่อมั่นกับงานวิฟ เอเชีย ชี้ให้เห็นว่างาน วิฟ เอเชีย เป็นงานที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมที่นักลงทุนต่างให้ความสำคัญ และได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจกลับไปจากการมาเยี่ยมชมงานในครั้งนี้

การรวมตัวกันของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค

 ด้วยความเข็มแข็งของเครือข่ายธุรกิจผ่าน VIV worldwide ที่มีเครือข่ายผู้ซื้อและผู้ผลิตระดับโลก ส่งผลให้งานวิฟ เอเชีย มีผู้เข้าชมงานชาวต่างประเทศมากกว่าร้อยละ 65 จากยอดผู้เข้าชมงานทั้งหมด 45,023 ราย จากกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการันตีถึงการเป็นเวทีเจรจาธุรกิจระดับสากลอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ผู้เข้าชมส่วนใหญ่มาจากภูมิภาค แบ่งเป็นผู้เข้าชมงานชาวจีน มากเป็นอันดับสองรองจากประเทศไทย ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 12% นอกจากนั้นยังมี 10 ประเทศที่มีจำนวนผู้เข้าชมงานเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ ประเทศอินเดีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย บังคลาเทศ สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ไต้หวัน และปากีสถาน อีกหนึ่งประเทศที่น่าจับตามองนั่นคือ ประเทศกัมพูชา ที่มีผู้เข้าชมงานมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญติด 20 อันดับเป็นครั้งแรก ในส่วนของผู้เข้าชมงานจากประเทศปากีสถานก็ยังคงเดินทางมาเยี่ยมชมงานแม้ว่าภายในประเทศจะมีการปิดน่านฟ้า ซึ่งมีผู้เข้าชมงานอยู่ในอันดับที่ 11 นอกจากนั้นยังมีประเทศ พม่า ญี่ปุ่น เนปาล และอิหร่าน

วิฟ เอเชีย ประสบความสำเร็จในการเป็นงานนิทรรศการระดับนานาชาติที่เติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพียงในแง่ของผู้เข้าชมงานเท่านั้น แต่ในส่วนของผู้ประกอบการก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งในครั้งนี้ มี 1,245 บริษัทชั้นนำ จาก 62 ประเทศร่วมจัดแสดงบูท (เพิ่มขึ้น 18% จากครั้งที่ผ่านมา) ครอบคลุมทุกพื้นที่ของไบเทค จำนวน 31,007 ตารางเมตร (เพิ่มขึ้น 30% จากครั้งที่ผ่านมา) นอกจากนั้นยังมี 10 พาวิลเลี่ยนนานาชาติ โดยเฉพาะพาวิลเลี่ยน แคนาดา และ ญี่ปุ่น ที่ร่วมงานกับวิฟ เอเชีย เป็นครั้งแรก นอกจากนั้นยังมี กลุ่มพาวิลเลี่ยนที่ร่วมจัดงานเป็นประจำ อาทิ ประเทศเบลเยียม จีน ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ สเปน ไต้หวัน ไทย และสหรัฐอเมริกา สุดท้ายคือประเทศที่เปิดตัวสินค้าใหม่ ได้แก่ ไซปรัส เอกวาดอร์ ฟินแลนด์ จอร์แดน ลิทัวเนีย โมร็อกโก พม่า ปารากวัย ตูนิเซีย และอุรุกวัย

ผู้เข้าชมงานเทคะแนนความพึงพอใจในการเยี่ยมชมงาน วิฟ เอเชีย 2019

จากการสำรวจความพึงพอใจของบรรดาผู้เข้าชมงาน 10 วันหลังจากการมาเยี่ยมชมงาน พบว่า วิฟ เอเชีย ได้รับความพึงพอใจจากผู้เข้าชมงาน สูงถึง 8.1 คะแนน จาก 10 คะแนน นอกจากนั้นในส่วนของผู้ประกอบการที่ร่วมจัดแสดงบูทภายในงาน ก็ให้ระดับคะแนนความพึงพอใจอยู่ที่ 8.8 คะแนนจากเต็ม 10 จากผลสำรวจพบความผู้เข้าชมงานกลับมาเยี่ยมชมงานซ้ำในวันที่สองและสาม เพิ่มมากขึ้นถึง 3% เมื่อเทียบกับครั้งที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่านอกจากการมาเยี่ยมชมงานทั่วไป ผู้เข้าชมงานยังการทำนัดหมายเจรจากับผู้ประกอบการเพื่อต่อยอดธุรกิจกันต่อไป

 

โปรแกรม และ งานสัมมนาพิเศษที่ตอบโจทย์ครบทุกประเด็นในห่วงโซ่อาหาร

ผู้เข้าชมงานวิฟ เอเชีย ไม่ได้มาเพื่อการเยี่ยมชมงานและขยายเครือข่ายธุรกิจเท่านั้น งานสัมมนาและการประชุมวิชาการต่างๆ ภายในงานวิฟ เอเชีย ก็ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเช่นเดียวกัน ในปีนี้มีงานสัมมนามากกว่า 89 หัวข้อการประชุม ที่จัดโดยคู่ค้า พันธมิตร และผู้ประกอบการ ซึ่งมีวิทยากรกว่า 200 คน จากทั่วโลกมาแบ่งปันความรู้สำหรับการทำธุรกิจในเขตร้อน การป้องกันโรคสัตว์ การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในสุกรและสัตว์ปีกและการลดการใช้ยา เทคโนโลยีการเลี้ยงกุ้งและการพูดคุยเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ทำได้จริง นอกจากนั้นยังมีหัวข้อเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมสำหรับการควบคุมความเสี่ยงและการลดความเครียด รวมถึงแนวโน้มของตลาด นโยบายระดับภูมิภาค ตลอดจนหัวข้อทางเทคนิคและเชิงพาณิชย์  รายละเอียดโปรแกรมและข้อมูลงานสัมมนาทั้งหมดสามารถพบได้ใน วิฟ เอเชีย 2019 ที่จะเผยแพร่ทาง www.viv.net  และ www.vivasia.nl ภายในกลางเดือนเมษายนนี้

จากสถิติพบว่า มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานสัมมนา มากกว่า 5,396 คน ตลอดทั้งสามวันที่เข้าร่วมงานสัมมนาที่ไบเทคในช่วงจัดงาน โดยในวันแรกการประชุมที่ได้รับความสนใจสูงที่สุด คือ งานประชุมในหัวข้อ “ASF การหยุดชะงักของอุตสาหกรรมหมูอาเซียน” เป็นงานประชุมที่จัดต่อเนื่อง 3.5 ชม. จัดโดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งประเทศไทย มีผู้เข้าร่วมงานสัมมนามากถึง 333 ราย สาระสำคัญคือ การอัพเดทสถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุดของไข้สุกรแอฟริกัน โรคระบาดร้ายแรงที่ติดต่อในสุกรเริ่มแพร่กระจายในประเทศจีนและระบาดมาถึงประเทศเวียดนามในช่วงก่อนวันจัดงาน ซึ่งรัฐบาลไทยได้มีการออกนโยบายป้องกันการระบาดโดยห้ามไม่ให้มีการเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงสัตว์ในช่วงการจัดงานวิฟ เอเชีย เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของโรค ซึ่งงานสัมมนานี้ได้สร้างความเข้าใจและการป้องกันโรคที่ดีให้กับบรรดาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม ซึ่งจากสาเหตุดังกล่าวก็ส่งผลต่อจำนวนผู้เข้าชมงานเล็กน้อย

งานสัมมนาที่ได้รับความนิยมอันดับที่ 2 คือ งานสัมมนา “AMR: จากวิทยาศาสตร์สู่นโยบาย” นำเสนอโดย สมาพันธ์สมาคมสัตวแพทย์แห่งเอเชีย โดยมียอดผู้เข้าชมงานรวม 231 คน อันดับ 3 คือ งานสัมมนา  “China Connects” ซึ่งจัดขึ้นโดย ผู้จัดงาน VIV Qingdao และ VIV worldwide ในวันแรก ซึ่งเป็นเวทีสำหรับการกระชับความร่วมมือระหว่างการเลี้ยงสัตว์ในประเทศจีนและอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลก โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 162 คน